เหตุที่ทรงพระราชดำริสถาปนาเจ้าจอมสุวัทนาขึ้นเป็นพระนางเจ้า สุวัทนาพระวรราชเทวีนั้น เนื่องมาจากธรรมเนียมราชตระกูลใน กรุงสยามที่มีแบบแผนว่าหากเป็นพระหน่อของพระมหากษัตริย์ ย่อมดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จเจ้าฟ้าแต่ถ้าหากเป็นพระหน่อ ประสูติแต่พระมารดาที่เป็นสามัญชนแล้ว ย่อมดำรงพระอิสริยยศ เป็นแต่เพียง พระองค์เจ้า เท่านั้น ในกรณีนี้ ย่อมแสดงถึง พระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยชัดแจ้งว่าทรงตั้งพระราชหฤทัยที่จะให้พระหน่อที่จะมี พระประสูติการในเวลาอันใกล้ ดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จเจ้าฟ้า ตามโบราณราชประเพณี
รุ่งขึ้นวันพุธที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ เวลากลางวัน คณะแพทย์ ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้กราบ บังคมทูลพระกรุณาว่ามีพระราชประสงค์จะทอดพระเนตรพระ ราชธิดาหรือไม่ แต่ในขณะนั้นพระอาการประชวรหนักเกินกว่าจะมี พระราชดำรัสตอบได้จึ่งได้แต่ทรงพยักพระพักตร์แสดงพระราช ประสงค์ เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ จึงเชิญเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ซึ่งบรรทมบนพระยี่ภู่ไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระวิมาน ในพระที่นั่งจักรพรรดิมาน เมื่อถึงที่เฝ้าแล้ว เจ้าพระยารามราฆพ เชิญเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ จากเจ้าคุณพระประยูรวงศ์ ไปเฝ้า ทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระบรมชนกนาถบนพระแท่น เมื่อทอดพระเนตรแล้ว ทรงพยายามจะยกพระหัตถ์ขึ้นสัมผัส พระราชธิดาแต่ทรงอ่อนพระกำลังมากจนไม่สามารถจะทรงยก พระหัตถ์ได้เจ้าพระยารามราฆพจึงเชิญพระหัตถ์ของพระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นสัมผัสพระราชธิดาเมื่อจะเชิญเสด็จ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอกลับก็ทรงโบกพระหัตถ์แสดงพระราชประสงค์ จะทอดพระเนตรพระราชธิดาอีกครั้งจึงเชิญเสด็จสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นคำรบที่สอง แล้วเชิญเสด็จสมเด็จ พระเจ้าลูกเธอกลับออกจากที่เฝ้า