พระวรราชเทวี
        ในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๘ เมื่อเป็นที่ทราบแน่ชัดว่าเจ้าจอมสุวัทนาใกล้จะ
มีสูติกาลพระหน่อ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระโสมนัสยิ่งนัก
เพราะในเวลาที่ล่วงมาแล้ว ยังไม่มีพระมเหสี หรือพระสนมเอกประสูติพระราชกุมาร
มาก่อน พระองค์จึงทรงพระราชนิพนธ์บทกล่อมพระหน่อกษัตริย์ เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม
ไว้ดังนี้
        “พระเอยพระหน่อนาถ                    งามพิลาศดังดวงมณีใส
       พระเสด็จจากฟ้าสุราลัย                   มาเพื่อให้ฝูงชนกมลปรีดิ์
               ดอกเอยดอกจัมปา                  หอมชื่นจิตติดนาสา
        ยิ่งดมยิ่งพาให้ดมเอย
               หอมพระเดชทรงยศโอรสราช  แผ่เผยผงาดในแดนไกล
        พึ่งเดชพระหน่อไท                       เป็นสุขสมใจไม่วางวาย
        รูปลม้ายคล้ายพระบิตุราช               ผิวผุดผาดเพียงชนนีศรี
        ขอพระจงทรงคุณวิบุลย์ทวี             เพื่อเปนที่ร่มเกล้าข้าเฝ้าเทอญ
               ดอกเอยดอกพุทธิชาต             หอมเย็นใจใสสอาด
        หอมบ่มิขาดสุคนธ์เอย
               หอมพระคุณการุญเปนประถม  เย็นเกล้าเหมือนร่มโพธิ์ทอง
        เหล่าข้าทูลลออง                          ภักดีสนองพระคุณไท"
        ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนา
เจ้าจอมสุวัทนาขึ้นเป็น “พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี” ด้วยเหตุผลดัง
ปรากฏในพระบรมราชโองการประกาศสถาปนา ดังนี้

        “ทรงพระราชดำริว่า เจ้าสุวัทนาได้รับราชการสนองพระเดช
พระคุณโดยความซื่อสัตย์กตเวที มีความจงรักภักดีในใต้ฝ่าลอองธุลี
พระบาทเปนที่ไว้วางพระราชหฤทัย สมควรที่จะทรงยกย่องให้เป็น
ใหญ่ เพื่อผดุงพระราชอิศริยยศแห่งพระกุมารที่จะมีพระประสูติกาล
ในเบื้องหน้า
        อนึ่ง เจ้าจอมสุวัทนาก็เปนเชื้อสกุลที่บรรพบุรุษทั้งสองฝ่าย
ได้รับราชการมีความดีความชอบในราชการได้รับพระราชทาน
พระมหากรุณาของสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินมาหลายชั่วคนคือข้างฝ่าย
บิดาของเจ้าจอมสุวัทนาเปนเชื้อสายของเจ้าพระยาอภัยภูเบศรซึ่งเคย
ได้รับราชการเป็นผู้สำเร็จราชการเมืองพระตะบองต่างพระเนตร
พระกรรณตั้งแต่รัชกาลแห่งพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีพระองค ์
ที่หนึ่ง มาจนเมื่อเร็วๆ นี้ ฝ่ายมารดาก็เป็นเชื้อสายสกุลลงมาจากเจ้า
พระยาอัครมหาเสนาทางสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์
สมเด็จพระบรมมหาศรีสุริยวงศ์และเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์
นับว่าเป็นผู้มีสกุลสูงทั้งสองสายจะทรงยกย่องให้เจ้าจอมสุวัทนา
มีอิศริยยศสูงในตำแหน่งก็สมควรแล้ว
        จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเจ้าจอม
สุวัทนาขึ้นเป็นเจ้ามีพระอิศริยยศ เปนพระนางเจ้าสุวัทนา
พระวรราชเทวี
         จงทรงเจริญพระชนมายุ วรรณ สุข พล ปฏิภาณ คุณสาร
สมบัติ สรรพสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลทุกประการ เทอญฯ”

        ครั้นวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ในเวลาค่ำ ภายหลังจากเสร็จการพระราชกุศล
ทักษิณานุปทาน และการสถาปนาสมณศักดิ์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย และ
การพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เนื่องในพระราชพิธีฉัตรมงคล
ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้ว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสด็จประทับ ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ในหมู่พระมหามณเฑียรพระราช
ทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้า (ฝ่ายใน) แก่พระนางเจ้าสุวัทนา
พระวรราชเทวี